หัวพ่นหมอก

หัวพ่นหมอก ชนิดต่าง ๆ และขนาดรูต่าง ๆ  

หัวพ่นหมอกไม่มีคำว่าเสีย สามารถใช้ได้ตลอดไป

โดยหมุนที่หัวออกมา แล้วนำปลายเข็มหมุด มาเขี่ยเศษฝุ่น ออกจากด้านใน ก็สามารถใช้งานได้ดีเหมือนใหม่เสมอ

หัวพ่นหมอกที่มีกรองสีขาวขนาดจิ๋ว อุดก้นหัวพ่น ดีกว่า ชุดกรองต้นทางน้ำเข้า หรือไม่??

  การกรองในชุดพ่นหมอกนั้น เป็นการกักเศษฝุ่นละออง ไว้ไม่ให้หลุดไปอุดตันหัวพ่นหมอก ไม่ให้ตันง่าน ตันไว ต้องปีนขึ้นไปถอดออกมาเขี่ย หรือล้าง บ่อย ครั้ง

ไส้กรองถึงเวลา ก็ต้องถอดเปลี่ยนใหม่(ไส้กรองผ้า หรือ PP หรือวัสดุที่ไม่ใช่ไส้กรองสแตนเลสที่สามารถล้าง ขัดถูไส้กรองนั้นได้)

ไส้กรองที่ติดตั้งที่ก้นหัวพ่นนั้น หากติดตั้งที่สูง ถึงเวลาก็ต้องปีนขึ้นไปที่หัวพ่น และถอดออกมาเปลี่ยน ทีละหัว ถ้าต้องปีนหลายหัว ปีนขึ้น ปีนลง แต่ละหัวพ่นที่มิได้อยู่ใกล้กันจนมือเอื้อมถึง ก็ต้องเลื่อนบันได หรือสอยมา ถอดหัวพ่นเพื่อที่จะเปลี่ยนไส้กรองที่ก้น

แต่ถ้าใช้ไส้กรองที่ กรองให้น้ำสะอาดปราศจากเศษฝุ่นผง ตั้งแต่น้ำเข้าปั๊มน้ำ ถึงเวลาเปลี่ยน ก็ง่ายแค่ถอดเปลี่ยนเพียงจุดเดียว ดูแลง่าย เพียงเห็นว่าไส้กรองเริ่มมีสีคล้ำ หรือมีเศษฝุ่นติดมากก็สามารถเปลี่ยนได้ทันที ไม่ต้องรอให้ไส้กรองตัน จนเศษฝุ่นหลุดไปที่หัวพ่นก่อน หรือต้องรอให้หัวพ่นตันเนื่องจากไส้กรองที่ก้นหัวพ่นตันจนพ่นน้ำไม่ออก ซึ่งหัวพ่นเป็นโลหะไม่ได้ใสจนสามารถมองเห็น เหมือนกรองกระบอกใหญ่สีใส 

ดังนั้น การกรองจุดเดียวในพื้นที่แนวระดับ จึงมีประโยชน์กว่า ง่ายกว่า ความยุ่งยากน้อยกว่า การมีกรองที่ก้นหัวพ่นหมอก

นอกจากนั้นแล้ว กรองที่ก้นหัวพ่น จะทำให้แรงพ่น แรงพุ่ง ของหมอกที่ออกจากหัวพ่น น้อยลง แรงตกลง ไปเรื่อย ๆ ถ้าหากใช้ปั๊มที่มีความแรงน้อย ก็จะมีปัญหา แต่หากใช้ปั๊มแรงดันสูงไปเลย ก็ย่อมทำได้ แต่ต้องยอมรับกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นของความแรงปั๊มในรุ่นใหญ่ขึ้น ด้วย